เต่าตาเดียว
เต่าตาเดียว หมายถึง เรื่องเต่าตาบอด เป็นเรื่องที่เปรียบเทียบให้เห็นถึงความยากลำบากของเต่าตาเดียวที่จะพบกับขอนไม้ที่ลอยอยู่ในมหาสมุทร ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบกับผู้คนที่จะได้พบกับธรรมมหัศจรรย์เป็นเรื่องที่ยากที่จะรับและยึดถือ มีเนื้อหาดังนี้
ในท้องมหาสมุทรลึกถึง 80,000 โยชน์ มีเต่าตาเดียว ไม่มีแขน ไม่มีขา ไม่มีครีบ มีท้องที่มีความร้อนเหมือนกับเหล็กที่ถูกเผา ส่วนหลังนั้นมีความหนาวเย็นเหมือนกับภูเขาหิมะ และมีขอนไม้ที่ชื่อต้นมะกล่ำตาช้างแดง ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีค่ายิ่ง ถ้าเปรียบกับมนุษย์แล้วเหมือนกับอริยบุคคล ส่วนต้นไม้อื่น ๆ เรียกว่า ต้นไม้ธรรมดานั่นเอง ต้นไม้มะกล่ำตาช้างแดง เป็นต้นไม้ที่สามารถให้ความอบอ่นแก่กระดองเตาได้
ดังนั้นเต่าจึงปรารถนาทั้งเช้า กลางวัน เย็น และค่ำ ก็อยากขึ้นไปอยู่บนขอนไม้มะกล่ำตาช้างแดงนี้ เพื่อให้ท้องนั้นเย็นลง และให้กระดองหลังที่มีความหนาวเย็นโดยแสงอาทิตย์ให้อบอุ่น
แต่ในเวลา 1,000 ปี เต่าตัวนี้จะสามารถโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำทะเลได้เพียงแค่หนึ่งครั้งเท่านั้น ซึ่งท้องมหาสมุทรนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมากมาย ส่วนเจ้าเต่าตัวเล็กนิดเดียว การที่จะพบกับขอนไม้ที่จะลอยมาก็แสนยากเย็น และถึงแม้จะเจอขอนไม้แล้ว แต่ก็อาจจะไม่ใช่ขอนไม้มะกล่ำตาช้างแดง แม้จะพบกับขอนไม้มะกล่ำตาช้างแดง ก็เป็นการยากยิ่งที่จะพบกับขอนไม้ที่มีรูขนาดพอดีกับท้องของเต่า เพราะถ้าหากรูของขอนไม้ใหญ่เกินไป เต่าก็จะตกหล่นไปอยู่ในรู กระดองก็จะไม่ได้รับแสงแดง อีกทั้งยิ่งจะไม่สามารถกลับขึ้นมาได้อีกด้วย และถ้ารูขอนไม้เล็กเกินไปก็จะไม่พอดี เวลาที่ถูกคลื่นชัดก็จะกระดอนออกจากขอนไม้และตกไปอยู่ใต้ท้องทะเล แต่ถึงแม้จะพบกับขอนไม้มะกล่ำตาช้างแดงที่มีรูพอดี แต่เนื่องจากมีเต่ามีตาเดียว ฉะนั้น เมื่อขอนไม้ลอยไปทางทิศตะวันตก ก็จะมองเห็นว่าลอยไปทางทิศตะวันออก เมื่อขอนไม้ลอยไปทางทิศเหนือก็จะเห็นว่าลอยไปทางทิศใต้ ถึงแม้จะใช้เวลายาวนานนับกัลปนับกัปที่นับไม่ถ้วน แต่เต่าตาเดียวก็ยังยากที่จะพบกับขอนไม้ที่ลอยอยู่ในมหาสมุทรได้ นี่เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นว่า การที่ผู้คนจะพบกับธรรมมหัศจรรย์ได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง
พระนิชิเร็นไดโชนินกล่าวว่า “เป็นเรื่องของการเปรียบเทียบถึงการได้พบกับสัทธรรมปุณฑริกสูตรว่าเป็นเรื่องที่ยาก ถึงแม้ว่าจะได้พบแล้ว ไดโมขุที่สวดยากนั้น เหมือนกับการพบรูของธรรมมหัศจรรย์ จึงควรจะมีจิตใจเช่นนี้ มหาสุมทรก็คือ ทะเลแห่งความทุกข์แห่งการเกิดตาย เต่านั้นเปรียบเทียบแล้วก็เหมือนกับประชาชนอย่างพวกเรา การไม่มีแขน ไม่มีขา ก็เปรียบเทียบกับยพวกเราที่ไม่มีบุญกุศล ท้องที่ร้อนอยู่นั้นก็เปรียบได้กับพวกเรามีจิตใจเหมือนกับนรกร้อนแปดขุมแห่งความโกรธแค้น หลังที่หนาวเย็นเปรียบได้กับนรหหนาวแปดขุมแห่งความโลภ ในเวลา 1,000 ปีใต้ท้องมหาสมุทรนั้นเปรียบได้กับพวกเราที่ตกอยู่ในอบายภูมิ 3 และการจะลอยขึ้นมานั้นยาก 1,000 ปีจะลอยขึ้นมาได้เพียงหนึ่งครั้ง ก็เปรียบเหมือนกับเวลาอันยาวนานนับกัลปนับกัปที่นับไม่ถ้วน จากอบายภูมิ 3 ได้เกิดมาเป็นมนุษย์เพียงครั้งเดียว แล้วได้มาพบกับพระศายมุนีพุทธเป็นสิ่งที่ยากยิ่ง การที่พบกับขอนไม้สนนั้นง่าย แต่การพบกับไม้กะกล่ำตาช้างแดงนั้นยาก แต่การจะได้พบกับรูที่พอดีนั้นยาก ถึงแม้พบสัทธรรมปุณฑริกสูตรได้ การสวดนัมเมียวโฮเร็งเงเคียว ซึ่งเป็นอักษร 5 ตัว และเป็นหัวใจของสัทธรรมปุณฑริกสูตรนั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง การที่เห็นทิศตะวันออกเป็นทิศตะวันตก และเห็นทิศใต้เป็นทิศเหนือ ก็เหมือนกับเราประชาชนที่ทำหน้าตาเหมือนคนฉลาด มีสติปัญญา แต่กลับเห็นสิ่งเหนือกว่า”
ในสัทธรรมปุณฑริกสูตรบทที่ 27 ว่า “การพบพระพุทธเป็นสิ่งที่ยากยิ่ง เหมือนกับดอกอุทุมพรที่จะบาน เหมือนกับเต่าตาเดียวที่จะพบกับรูของขอนไม้ที่ลอยอยู่” ยังมีข้อความที่กล่าวว่า “แต่พวกเรามีบุญหนัก จึงเกิดมาได้พบกับพุทธธรรม”
อาจารย์อิเคดะอธิบายในข้อความของพระนิชิเร็นกล่าวว่า
1. การที่เราได้มีโอกาสพบพระพุทธศาสนาหาใช่เป็นเหตุบังเอิญไม่ แต่เป็นด้วยผลบุญจากอดีตชาติ
2. ในอดีตเราสัญญาว่าเราจะเผยแผ่ธรรมไพศาล
วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น