วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

พุทธศาสนานิกายมหายาน

“ มหายาน ” แปลว่า “ ยานอันยิ่งใหญ่ ซึ่งหมายถึง หนทางที่จะนำสรรพสัตว์จำนวนมหาศาลไปสู่การบรรลุหลุดพ้น ชาวมหายาน เชื่อว่า หนทางของการบรรลุธรรมตามแบบนิกายของตนนั้นเป็นหนทางอันประเสริฐกว่านิกายอื่น ๆ เพราะสามารถช่วยผู้อื่น ได้เป็นจำนวนมากกว่าและสามารถดับทุกข์อันไพศาลของหมู่สัตว์ กำเนิดของมหายานนั้นเริ่มก่อเค้าตั้งแต่พระพุทธองค์ปรินิพพานได้ 100 ปีอันเป็นช่วงเวลาที่มีการสังคายนาครั้งที่ 2 ทั้งนี้เพราะ ภิกษุกลุ่มหนึ่งเรียกว่า “ มหาสังฆิกะ ” ได้แยกตนออกไปต่างหากจากกลุ่มที่พยายามอนุรักษ์ของเดิม ซึ่งเรียกว่า “ เถรวาท ” อย่างไรก็ตามมหายานและเถรวาทเปรียบเหมือนปีกนกที่ต้องทยานไพร้อมๆกันเลยทีเดียว ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า"Two wings of Buddhism"
ความแตกต่างระหว่างนิกายมหายานและนิกายเถรวาท มีข้อที่น่าสังเกตดังนี้ คือ
1. นิกายมหายานเป็นนิกายที่มีหลักปฏิบัติเพื่อช่วยมหาชนให้มากที่สุด โดยไม่คำนึงถึงตนเอง ในบางครั้งชาวมหายานอาจ จะต้องยอมตกนรก ถ้าหากว่าการกระทำนั้น ๆ จะเป็นการช่วยชีวิตของสรรพสัตว์ไว้ได้
2. การหลุดพ้นของนิกายเถรวาทเป็นไปในลักษณะที่รีบด่วน ตัดทุกอย่างเพื่อความหลุดพ้นจากความทุกข์ ส่วนมหายานจะไม่รีบด่วนไปสู่ความ ดับทุกข์จนกว่าจะช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ ดังนั้น ชาวมหายานจึงมีปณิธานที่ว่า “ หากยังมีสัตว์ที่ต้องตกทุกข์ได้ยากอยู่ก็จัก ไม่ขอปรารถนาบรรลุพุทธภูมิ ”
3. นิกายเถรวาทปฏิเสธเรื่องราวของพระพุทธองค์หลังปรินิพพานเพราะเชื่อว่าพระองค์เข้าสู่พระนิพพานและไม่กลับมาเกิดอีก แต่นิกายมหายานเชื่อว่า หลังจากที่พระพุทธองค์ปรินิพพานแล้ว พระองค์ยังคงมีอยู่และรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ในโลกนี้ และจะเสด็จกลับมาสู่โลกนี้อีกเพื่อโปรดสรรพสัตว์เพราะการเข้าสู่พระนิพพานของพระพุทธองค์เป็นกุศโลบายให้สรรพสัตว์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทดั่งนิทานเรื่อง พระราชาแห่งแพทย์ในสัทธรรมปุณฑริกสูตร
4. นิกายมหายานเชื่อว่า สัตว์ทั้งหลายมีจิตเป็นสากล หรือพุทธภาวะที่แจ่มจรัสปราศจากกิเลสทุกคนมีพลังพุทธะเท่าเทียมกัน สามารถบรรลุพุทธะได้เหมือนกันทุกคน ส่วนนิกายเถรวาทไม่ยอมรับ ในเรื่องนี้เพราะเชื่อว่าผู้ที่จะบรรลุพุทธะได้จะต้องตัดกิเลสทุกอย่างแล้วจึงจะบรรลุพุทธะได้